วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

1.อาชีพโปรแกรมเมอร์ (Programmer)
             
                 ลักษณะการทำงานของนักโปรแกรมเมอร์โปรแกรมเมอร์ จะทำหน้าที่ นำข้อมูลการออกแบบรายละเอียดการวางโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ จากนักวิเคราะห์ระบบงาน มาเขียนเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเครื่องของระบบฐานข้อมูล ทดสอบระบบและส่งให้นักวิเคราะห์ระบบทำการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อหากจุดบกพร่องและแก้ไขก่อนนำไปใช้จริง
โปรแกรมเมอร์ยังต้องทำหน้าที่ รับรายละเอียดของความต้องการของผู้ใช้ระบบ (User) จากนักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) จัดทำแผนภูมิ (Flowchart) ขั้นตอนการทำงานที่ละเอียด และถูกต้องตามหลักวิชา เพื่อประโยชน์ในการเขียนโปรแกรมสำหรับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์แผนภูมิหรือแผนผังสายงาน แต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด..... 

                  คุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นโปรแกรมเมอร์
• มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเข้ารับศึกษาได้ในสถานบันการศึกษาที่เรียนทำการสอนหรือสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางด้านคอมพิวเตอร์
• มีทักษะในการการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์
• มีความคิดสร้างสรรค์สามารถประยุกต์และดัดแปลงความรู้ความสามารถทางด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี..... 






2.อาชีพนักเขียนเกม (Game Maker)

                      โปรแกรม Game Maker เป็น สุดยอด โปรแกรม สร้างเกมส์ ระดับโลก โปรแกรมนึงเลย ถ้าพูดถึงสำหรับวงการสร้างเกมส์แล้วแทบจะเป็นที่รู้จักอย่างมาก คุณสามารถที่จะสร้างฝัน หรือ จินตนาการของคุณให้เป็นจริง หลายคนเคยคิดในใจว่า "น่าจะมีเกมส์ แบบนี้นะ ทำไมบริษัทเกมต่างๆ ไม่ยอมสร้าง เกมส์แนวนี้ขึ้นมาสักที?" ต่อจากนี้ไป คุณไม่ต้องมารอให้บริษัทค่ายเกมส์ใหญ่อย่าง EA, Sierra, Westwood Studio ต้องมาสร้างเกมส์แล้ว คุณสามารถสร้างขึ้นมาได้เองเลยด้วย สุดยอด โปรแกรม สร้างเกมส์ นี้ 
ลักษณะของ Game Maker จะเป็นการสร้างในลักษณะของ Drag & Drop หรือ ที่เราเรียกว่า ลาก แล้ว วาง นั่นเอง นอกจากนี้แล้ว สุดยอด โปรแกรม สร้างเกมส์ นี้ยังสามารถนำพวก Background, Sound Effect, Image, Graphic จากหลายๆ แหล่ง (ซึ่งในตัว โปรแกรมนี้ก็ มีให้อยู่แล้ว) มารวมกันออกมาเป็นเกมนึงได้เลย







3.อาชีพเว็บมาสเตอร์ (Web Master)
                        
                     ผู้ประกอบอาชีพนี้มีลักษณะงานที่ทำดังนี้ รับรายละเอียดความต้องการของผู้มอบหมายงานในการจัดทำ เว็บไซต์ ศึกษาข้อมูลของสิ่งที่ต้องการนำเสนอ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโฆษณา  โครงการ หรือสถาบันต่างๆ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มีจุดยืนอย่างไร ต้องการเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายใดให้มาสนใจ ด้วยถ้อยคำอย่างไร วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมาใช้สร้างหรือกำหนดลำดับขั้นตอนของการนำเสนอ รวมทั้งกำหนดประเภทและแบบของการเขียนโปรแกรมในการนำเสนอในเว็บไซต์  ออกแบบการจัดวางเนื้อหาและการเชื่อมสู่รายละเอียดในแต่ละรายการที่ต้องการนำเสนอ (Sitemap) และโครงร่าง (Outline) ของเว็บไซต์ ปรึกษาหารือกับผู้ควบคุมงาน และผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ในการนำเสนอ การนำข้อมูลเข้าระบบ ขอบเขตของการแสดงข้อมูล ออกแบบ การจัดวางภาพและข้อความ  (Layout) ในแต่ละเว็บเพจ ซึ่งอาจจะมีผู้ออกแบบกราฟฟิค (Graphic Designers) เป็นผู้ช่วยทำให้การนำเสนองานมีความสมบูรณ์ ก่อนจะส่งให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาแก้ไขข้อมูลและภาพให้ถูกต้องและสามารถนำเสนอในเว็บไซต์ได้ ทั้งนี้หลังจากการนำเสนอในเว็บไซต์จะต้องดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ ให้มีข้อมูลที่ทันสมัยหรือทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย 



วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คลิปวิดีโอเกี่ยวกับความรู้โรคเอดส์

ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์

เอดส์ คืออะไร 
เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือกขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการจะรุนแรง และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต 
โรคเอดส์ (AIDS) คืออะไร (wikipedia.org
โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome - AIDS) เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเพราะร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคลดน้อยลง จึงทำให้ติดเชื้อโรคฉวยโอกาสแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรคในปอด หรือต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตมักเกิดขึ้นจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เหล่านี้ ทำให้อาการจะรุนแรง และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว 
ปัจจุบันโรคเอดส์มีการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็นโรคที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ ในปี พ.ศ. 2548 ประมาณการว่ามีผู้ติดโรคเอดส์ประมาณ 3.1 ล้านคน(ระหว่าง 2.8 - 3.6 ล้าน) ซึ่ง 570,000 คนของผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นเด็ก (UNAIDS, 2005)


Link : http://www.thaiall.com/aids/




HIV และ AIDS ต่างกันอย่างไร
เชื้อ Human Immunodeficiency Virus(hiv) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเอดส์เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายเชื้อจะแบ่งตัวอย่างมากและมีการเกิดโรคที่อวัยวะต่างๆ เช่นสมอง หัวใจ ไตและที่สำคัญคือจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันนี้จะทำหน้าที่สร้างถูมิเพื่อต่อต้านการติดเชื้อและมะเร็งบางชนิด ในการสร้างภูมิจะต้องอาศัยเซลล์หลายชนิดที่สำคัญได้แก่เซลล์ CD4+ lymphocytes ซึ่งเป็นเซลล์ที่เชื้อHIV ชอบ เมื่อเซลล์ CD4+ lymphocytes ถูกทำลายโดยเชื้อมากจะทำให้ภูมิของร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นปัญหาที่สำคัญของคนติดเชื้อ HIV คือปัญหาของโรคที่เกิดจาดภูมิที่อ่อนแอลงเช่นโรคติดเชื้อฉวยโอกาส opportunistic infections เช่นโรคปอดบวมและโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และมะเร็งบางชนิด ปัจจุบันพบเชื้อ HIV มี2 ชนิดคือ
  • HIV-1 เป็นชนิดที่แพร่ระบาดทั่วโลก
  • HIV-2 พบที่แถบประเทศ Africa
  • HIV-1มี sub-types หลายชนิด 
HIV disease คือผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อHIV และยังไม่เกิดอาการจากเชื้อฉวยโอกาสและมีจำนวนเซลล์ CD4+ lymphocytes มากกว่า 200 cells/mm3(ปกติมากกว่า 100 cell/mm)โดยทั่วไปไม่มีอาการเป็นเวลา 5-10 ปีแม้ว่าจะไม่มีอาการเชื้อก็แบ่งตัวและทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเมื่อภูมิถูกทำลายมากจนกระทั่งเกิดโรคที่เกิดจากภูมิบกพร่อง
Acquired Immunodeficiency Syndrome หรือโรคเอดส์ คือผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ HIVและโรคได้ลุกลามจนภูมิคุ้นกันบกพร่อง และอาจจะทำให้เกิดโรคฉวยโอกาสและมะเร็ง ตามองค์การควบคุมโรคติดเชื้อของอเมริกาหมายถึง
  • โรคติดเชื้อบางชนิดเช่น Pneumocystis carinii pneumonia (PCP), and cryptococcal meningitis 
  • มะเร็งบางชนิดเช่น cervical cancer, Kaposi's sarcoma, และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ระบบประสาท( central nervous system lymphoma )
  • CD4+ count น้อยกว่า 200 cells/mm3(ค่าปกติ 600-1000) หรือ 14 percent of lymphocytes 
AIDS ทำลายร่างกายอย่างไร
  • ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้มีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสและมะเร็ง
  • สมองถูกทำลายทำให้สมองเสื่อมและความจำเสื่อม
  • ทำให้หัวใจวายมีอาการเหนื่อยง่าย บวมเท้าและท้อง
  • ทำให้ไตวาย
  • ไม่สามารถทำงานประจำวันได้เช่น การขับรถ
  • มีการเปลี่ยนแปลงทางน้ำหนักและท้องร่วงเรื้อรัง 
อาการของโรคติดเชื้อ HIV
อาการของการติดเชื้อ HIV จะมีความหลากหลายขึ้นกับระยะของโรค เนื่องจากเชื้อ HIV เป็นไวรัสชนิดหนึ่งอาการของการติดเชื้อ HIV จะเหมือนอาการของไข้หวัดคือ มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่น อ่อนเพลีย เราไม่สามารถวินิจฉัยได้จากอาการ แม้ว่าผู้ได้รับเชื้อ HIV จะไม่มีอาการแต่เขาสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้  ฉนั้นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรได้รับการเจาะเลือดในช่วงแรกของการติดเชื้อ HIV คุณอาจจะมีอาการดังต่อไปนี้
  • ต่อมน้ำเหลืองโต ตับม้ามโต มักจะเป็นอาการอันแรกของการติดเชื้อ
  • ท้องร่วง บางคนอาจจะเรื้อรัง
  • น้ำหนักลด.
  • มีไข้
  • ไอและหายใจลำบาก
เมื่อไม่ได้รับการรักษาเชื้อก็จะแบ่งตัวเรื่อยและทำลายระบบภูมิคุ้มกันและกลายเป็นโรคเอดส์ซึ่งจะมีอาการดังนี้
  • เหงื่ออกกลางคืน
  • ไข้หนาวสั่น ไข้สูงเรื้อรัง
  • ไอเรื้อรังและหายใจลำบาก
  • ท้องร่วงเรื้อรัง
  • ลิ้นเป็นฝ้าขาว
  • ปวดศีรษะ
  • ตามัวลงหรือเห็นเป็นเส้นลอยไปมา
  • น้ำหนักลด
  • การติดเชื้อฉวยโอกาส 
  • เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย
  • หากเป็นผู้หญิงก็มีอาการตกขาวบ่อย
  • เพลียและเหนื่อยง่าย
  • บางคนมีผื่นตามตัว





วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ผลกระทบในด้านบวกและด้านลบ

ผลกระทบของ IT
โหดไปหรือเปล่า? นักเรียนอังกฤษแฮ็ก Facebook โดนสั่งจำคุก 8 เดือน
ดูเหมือนนักเรียนที่มีความสามารถด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์ของอังกฤษรายหนึ่งนาม ว่า Glenn Mangham อายุ 26 ปี ผู้ซึ่งค้นพบจุดอ่อนของระบบ  ชีวิตตัวเองจะไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่นักซะแล้ว เพราะว่าสิ่งที่เค้าค้นพบ นอกจากจะแค่เป็นการค้นพบเฉยๆก็คงไม่มีอะไร แต่กลับทำการเอาช่องโหว่ที่ว่าทั้งหมดออกมาเปิดเผย โดยศาลได้ตัดสินสั่งจำคุก 8 เดือน จากความผิดที่เค้าก่อขึ้น
นักเรียนอังกฤษแฮ็ก Facebook โดนสั่งจำคุก 8 เดือน
แต่เป็นที่น่าแปลกตรงที่ แม้ว่าศาลจะพิจารณาว่าสิ่งที่ Mangham ได้ทำลงไปนั้น ไม่ได้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่เอาข้อมูลที่ได้ไปส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เป็นภัยต่อประเทศ และความมั่นคงอย่าง KGB หรือ Google แต่เค้าก็ยังโดนตัดสินให้มีความผิด ดูไปแล้วก็เหมือนว่าเพราะเขาเข้าไปเจาะระบบของบริษัทที่มีชื่อเสียงและความ สำคัญแค่นั้น
นักเรียนอังกฤษแฮ็ก Facebook โดนสั่งจำคุก 8 เดือน
ก็ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ศาลของอังกฤษกันพอสมควรเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง เรื่องนี้ก็น่าจะกลายเป็นสิ่งให้หลายๆฝ่ายได้ศึกษากันเพิ่มเติมต่อไป โดยเฉพาะตัวของ Facebook เอง
ที่มา : http://hitech.sanook.com/947260/

แนวทางการป้องกัน : ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เรียนรู้การใช้ IT อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังได้

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ตัวอย่างข้อสอบ O-net

เว็ปไซต์ : http://www.tewfree.com
เว็ปไซต์ : https://pakornkrits.wordpress.com/tag/


                               ตัวอย่างข้อสอบ 10 ข้อ
                                     วิชา ภาษาไืทย


ใชคําประพันธตอไปนี้ตอบคําถาม  ขอ  ๑ - ๕
    ก.  โบราณวาเปนขาจอมกษัตริย
    ข.  ราชสวัสดิ์ตองเพียรเรียนรักษา
    ค.  ทานกําหนดจดไวในตํารา
    ง.  มีมาแตโบราณชานานครัน


๑.  ขอใดมีเสียงสระประสม
๑.  ขอ  ก              ๒.  ขอ  ข
๓.  ขอ  ค              ๔.  ขอ  ง

๒.  ขอใดมีคําที่ออกเสียงอักษรควบ
๑.  ขอ  ก              ๒.  ขอ  ข
๓.  ขอ  ค              ๔.  ขอ  ง

๓.  ขอใดมีเสียงวรรณยุกตครบ  ๕  เสียง
๑.  ขอ  ก              ๒.  ขอ  ข
๓.  ขอ  ค              ๔.  ขอ  ง


๔.  ขอใดมีอักษรตํ่านอยที่สุด  (ไมนับอักษรที่ซํ้ากัน) 
๑.  ขอ  ก              ๒.  ขอ  ข
๓.  ขอ  ค              ๔.  ขอ  ง

๕.  ขอใดมีอักษรนํา
๑.  ขอ  ก  และ  ข           ๒.  ขอ  ข  และ  ค
๓.  ขอ  ค  และ  ง           ๔.  ขอ  ง  และ  ก

๖.  คําในขอใดมีตัวสะกดมาตราเดียวกับ  “เหตุผล”  ทุกคํา
๑.  พุดตาน    ถอดถอน   มลพิษ
๒.  มดเท็จ    คิดสั้น    จัดการ
๓.  ผลัดเวร    บทกลอน   โทษทัณฑ
๔.  สวดมนต   จุดออน    ทรัพย ิสน

๗.  คําซํ้าในขอใดตองใชเปนคําซํ้าเสมอ
๑.  คนงานใหมขยันเปนพักๆ เอาแนไมได
๒.  นักเรียนอนุบาลหกลมหัวเขาแตก  เลือดไหลซิบๆ
๓.  งานนี้ ึถงจะไดเงินเดือนนอย  ก็ทําไปพลางๆ กอนแลวกัน
๔.  ถาเราวางแผนให ีดต้ังแตแรกๆ โครงการนี้ก็คงสําเร็จไปแลว


๘.  ขอใดเปนคําซอนทุกคํา
๑.  ซํ้าซอน    ซอนรูป       ซักฟอก
๒.  ถองแท    ถี่ถวน       ถากถาง
๓.  บีบค้ัน    เบียดเบียน     เบาความ
๔.  แปรผัน    เปาหู       โปรยปราย

๙.  ขอความตอไปนี้สวนใดมีคําประสมท้ัง  ๒  สวน
      ๑)  บริเวณสวนกวางขวาง  / ๒)  มีสนามที่ไดรับการดูแลจากเทศบาลเมือง / 
    ๓)  มีประติมากรรมเปนรูปเทพธิดาแสนงาม / ๔)  มุมหนึ่งมีนาฬิกาแดดคอย
    บอกเวลา
๑.  สวนที่  ๑    และ   ๔
๒.  สวนที่  ๒   และ   ๓
๓.  สวนที่  ๑    และ   ๓
๔.  สวนที่  ๒   และ   ๔

๑๐.  ขอใดมีคําประสมทุกคํา
๑.  คําขาด    คําคม    คําราม
๒.  เดินแตม    เดินรถ    เดินสะพัด
๓.  นํ้าปา    นํ้าไหล    นํ้ามือ
๔.  ติดลม    ติดใจ    ติดขัด


วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตัวอย่างโครงงานคอมพิมเตอร์


The Hero of the world : อัศวินโลกตะลึง



จากเว็บไซต์ : http://www.vcharkarn.com/project/366


ในปัจจุบันนี้โลกของเรานั้นร้อนขึ้นทุกวัน เพราะเกิดปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งเกิดจากมนุษย์เรา ฉะนั้นโปรแกรมนี้จึงได้นำเสนอเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว นำเสนอในรูปแบบของเกมส์ Multimedia เพื่อทำให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มของเด็กและวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่จะช่วยเหลือโลกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ได้รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองรวมถึงโลกของเราทุกคน โปรแกรมมีการดำเนินเรื่องเป็นการผ่านด่าน โดยในแต่ละด่านก็จะมีความรู้สอดแทรกเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของปัญหาภาวะโลกร้อน



วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรม Cal





Private Sub Command1_Click()
x = Val(Text1.Text)
y = Val(Text2.Text)
z = x * y
Label1.Caption = z
End Sub

Private Sub Command2_Click()
x = Val(Text1.Text)
y = Val(Text2.Text)
z = x / y
Label1.Caption = z
End Sub

Private Sub Command3_Click()
x = Val(Text1.Text)
y = Val(Text2.Text)
z = x + y
Label1.Caption = z
End Sub

Private Sub Command4_Click()
x = Val(Text1.Text)
y = Val(Text2.Text)
z = x - y
Label1.Caption = z
End Sub

Private Sub Command5_Click()
Text1.Text = ""
Text2.Text = ""
Label1.Caption = ""
End Sub

Private Sub Command6_Click()
End
End Sub

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประเภทสื่อการเรียนรู้

ประเภทของสื่อการเรียนการสอน แบ่งตามคุณลักษณะได้ ประเภท คือ
                1. สื่อประเภทวัสดุ ได้แก่สไลด์ แผ่นใส เอกสาร ตำรา สารเคมี สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และคู่มือการฝึกปฏิบัติ
                2. สื่อประเภทอุปกรณ์ ได้แก่ของจริง หุ่นจำลอง เครื่องเล่นเทปเสียง เครื่องเล่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายแผ่นใส อุปกรณ์และเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ
                3. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ ได้แก่การสาธิต การอภิปรายกลุ่ม การฝึกปฏิบัติ การฝึกงาน การจัดนิทรรศการ และสถานการณ์จำลอง
                4. สื่อประเภทคอมพิวเตอร์ ได้แก่คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer presentation) การใช้ Intranet และ Internet เพื่อการสื่อสาร (Electronic mail: E-mail) และการใช้ WWW (World Wide Web)


                กล่าวโดยสรุป  สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้

   






แหล่งที่มา : http://2wilaiporn052.blogspot.com/2011/07/blog-post_7308.html



การใช้โปรแกรม Visual basic 6.0



ขอขอบคุุณเว็บจาก https://www.youtube.com/watch?v=1K5wZSQz9qM

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา

1.สื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
     
      สื่อการศึกษา หมายถึง วัสดุที่เสนอเนื้อหาสาระความรู้แก่ผู้รับ ช่วยอำนวยความสะดวกในการให้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สื่อ อาจเป็นสื่อที่ให้สารสนเทศในตัวเอง หรือ อาจเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ในการนำเสนอ การเรียนการสอนในชั้นเรียน การบริการสารสนเทศในห้องสมุด ศูนย์สารสนเทศ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เทคนิค วิธีการ ให้ทันกับความก้าวหน้าและวิทยาการของโลก
ผู้สอน จำเป็นต้องใช้สื่อการศึกษา / สื่อการสอนเข้ามาช่วย
ผู้เรียน อาศัยสื่อเพื่อการเรียนรู้ ค้นคว้าตัวตนเองได้ เป็นเครื่องเสริมให้สามารถรับรู้ได้ทัดเทียมกับผู้อื่น เพิ่มทักษะการศึกษา และสามารถสนองตอบต่อวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างของผู้สอนและผู้เรียน
สื่อหรือวัสดุสื่อ จำแนกได้เป็น
สื่อสิ่งพิมพ์ (Printed Media) หรือสื่อพิมพ์
สื่อที่ไม่ใช่สิ่งพิมพ์ (Nonprinted Media) หรือสื่อไม่พิมพ์ แบ่งได้กว้าง ๆ คือ
สื่อโสตทัศน์ (Audio-Visual Media) หมายถึงสื่อที่ให้สารวนเทศด้วยการฟัง และการมองเห็น
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Media) หมายถึงสื่อที่ต้องใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์





2.ภาพตัวอย่าง Educational Media

                                       วิ่งร่อนย้อนยุค







                                             เณรสิขากับสมาธิ
                                                                





วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

โครงงาน

1.โครงงาน (Project) หมายถึงอะไร 
   
   ความหมายภาษาไทย - งานวิจัยเล็กๆสำหรับนักเรียน เป็นการแก้ปัญหาหรือข้อสงสัย หาคำตอบโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หากเนื้อหาหรือข้อสงสัยเป็นไปตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ใด จะเรียกว่าโครงงานในกลุ่มสาระนั้นๆ สำหรับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้
   
   ความหมายภาษาอังกฤษ - Little research for students Solve problems or questions Find the answer using the scientific process. If in doubt as to the content or subject matter of any group . Projects to be called in that group . For science-based process

2. โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร 
   
     ความหมาย - กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ

3. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์  มีกี่ประเภทอะไรบ้าง

    1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
     2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
     3. โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
     4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
     5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)







วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

การต่อยลำโพงเข้ากับคอมพิวเตอร์




การต่อลำโพงเข้ากับคอมพิวเตอร์
จัดทำโดย
1.นายพัฒนชัย แสงอรุณ ม.5/4 เลขที่ 17
2.นายณัฐพงศ์ เชื่้อชื่น ม.5/4 เลขที่ 29
3.นายสุปกรณ์ ลิมปนชัยพรกุล ม.5/4 เลขที่ 47

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

โมเด็ม ( Modem ) 
........ โมเด็ม ( Modem ) หรือ Modulator-Demodulator หมายถึง อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณดิจิตอล ( Digital ) จากเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก ( Analog ) เพื่อส่งไปตามเครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งเรียกว่า Modulate และแปลงสัญญาณ ข้อมูลแบบอนาล็อก
( Analog ) ที่มาจากเครือข่ายโทรศัพท์กลับเป็นสัญญาณข้อมูลแบบดิจิตอล ( Digital ) เพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า Demodulate
โมเด็มเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในการใช้งานอินเตอร์เน็ต โดยโมเด็มได้ถูกพัฒนาให้มีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูง ปัจจุบันมีความเร็วสูงถึง 56 Kbps
( Kilobit per second )


จรรยาบรรณของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

บัญญัติ 10 ประการเป็นจรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตยึดถือไว้ เสมือนเป็นแม่บทของการปฏิบัติ ผู้ใช้พึงระลึกและเตือนความจำเสมอ
  1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
  2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
  3. ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
  4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
  5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
  6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
  7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
  8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
  9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำของท่าน
  10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาท





บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

 อินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งที่ใช้ในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก ที่เราสามารถค้นคว้า และรับส่งข้อมูลไปมา ระหว่างกันได้ อินเทอร์เน็ตจึงมีประโยชน์สำหรับยุคสังคมและข่าวสาร ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่ เหมือนห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงบ้านหรือที่ทำงาน ภายในไม่กี่นาที จากแหล่งข้อมูลทั่วโลก โดยจัดเป็นบริการในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) คือบริการค้นหาและแสดงข้อมูลแบบมัลติมีเดีย บนอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ซึ่งข้อมูลและสารสนเทศอาจจัดอยู่ในรูปแบบของข้อความ รูปภาพ หรือ เสียงก็ได้ ข้อดีของบริการประเภทนี้คือ สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น หรือเว็บไซด์อื่นได้ง่าย เพราะใช้วิธีการของไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext) โดยมีการทำงานแบบไคลเอนท์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูล จากเครื่องที่ให้บริการซึ่งเรียกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยอาศัยโปรแกรม ที่ใช้ดูข้อมูลเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ซึ่งผลที่ได้จะมีการแสดงเป็นไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีการผนวกรูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และสามารถเชื่อมโยงไปยังเอกสารหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้โดยตรงตัวอย่างเช่น www.yahoo.com สามารถค้นหาและเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเรื่องราวต่างๆ เช่น การศึกษาการท่องเที่ยว โรงแรมต่าง ๆ การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เป็นต้น

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) หรือนิยมเรียกกันทั่วไปว่า “อีเมล์” (E-mail) เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกัน และกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถส่งข้อความ ไปยังสมาชิกที่ติดต่อด้วย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายได้อีกด้วย การส่งจดหมายในลักษณะนี้ จะต้องมีที่อยู่เหมือนกับการส่งจดหมายปกติ แต่ที่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เราเรียกว่า E-mail Address

การโอนย้ายข้อมูล (FTP : File Transfer Protocol) เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารข้อมูล บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อีกรูปแบบหนึ่ง ใช้สำหรับการโอนย้ายข้อมูลระหว่างผู้ใช้โปรแกรม FTP กับ FTP Server การโอนย้ายไฟล์จาก FTP Server มายังเครื่องของผู้ใช้ เรียกว่า ดาวน์โหลด (Download) และการโอนย้ายไฟล์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ไปยังไปยัง FTP Server เรียกว่า อัพโหลด

การสืบค้นข้อมูล (Search Engine) คือ บริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการสืบค้น เข้าไป โปรแกรมจะทำการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ให้ภายในเวลาไม่กี่นาที โปรแกรมประเภทนี้เราเรียกว่าSearch Engines เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถจำชื่อเว็บไซด์ บางเว็บได้ ก็สามารถใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล ในลักษณะนี้ได้ เว็บไซด์ที่ทำหน้าที่เป็น Search Engines มีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น google.com , yahoo.com , sanook.com ฯลฯ เป็นต้น

การสนทนากับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต จะคล้ายกับการใช้โทรศัพท์แต่แตกต่างกันที่ เป็นการสื่อสาร ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใช้ไมโครโฟน และลำโพงที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ในการสนทนา

กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ (News Group or Use Net) เป็นบริการกระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นลงไปบริเวณกระดานข่าวได้ มีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้ออกเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะสนใจเรื่องราวที่แตกต่างกันไป เช่นการศึกษา การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การเกษตร และอุตสาหกรรม เป็นต้น

การสื่อสารด้วยข้อความ IRC (Internet Relay Chat) เป็นการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น โดยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกัน ซึ่งจำนวนผู้ร่วมสนทนาอาจมีหลายคนในเวลาเดียวกัน ทุกคนจะเห็นข้อความ ที่แต่ละคนพิมพ์เหมือนกับว่ากำลังนั่งสนทนาอยู่ในห้องเดียวกัน โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารได้แก่โปรแกรม mIRC โปรแกรม PIRCH และโปรแกรม Comic Chat นอกจากโปรแกรม IRC แล้ว ในปัจจุบันนี้ภายในเว็บไซต์ ยังเปิดให้บริการห้องสนทนาผ่านทางโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ได้อีกด้วย